คุณรู้และเข้าใจชนิดของเวบแค่ไหน

ผมไม่แน่ใจว่าจะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดีเหมือนกัน คิดไม่ออกว่าจะเรียกว่ายังไง เพราะเป็นการพูดรวม ๆ เกี่ยวกับเวบไซต์แต่ละประเภทที่เราเห็น ๆ กันอยู่ทุกวันนี้ โดยเฉพาะที่คนกำลังกล่าวถึง twitter กับ facebook กันมากขึ้นเพราะใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งเมื่อก่อนนั้นเราจะได้ยินแค่เวบไซต์หรือ blog เท่านั้น

เวบไซต์ .. ฟังดูชื่อนี้อาจจะดูโบราณไปแล้วในทุกวันนี้ เมื่อก่อนนี้จะเรียกกันว่า World Wide Web มีตัวย่อเป็น WWW จากนั้นก็แปลงมาเป็น Web ที่เข้าง่ายกว่า เวบไซต์จะเป็นชื่อที่เรียกเวบต่าง ๆ ได้แบบกว้าง ๆ ไม่ได้เฉพาะเจาะอะไรมากนักเพราะจะอิงที่เนื้อหาของเวบนั้น ๆ มากกว่า แต่โดยทั่วไปจะเรียกกันในนามของ URL หรือลิ้งค์ไปที่ URL ตัวใดตัวหนึ่งเท่านั้น เพราะจะเข้าใจได้ง่ายกว่า นั่นคือเราสามารถพูดแบบเหมารวมไปเลยว่าทั้ง blog หรือ twitter ก็เป็นเวบ ๆ หนึ่งเช่นกัน


BLOG
ขอเริ่มต้นที่เวบประเภท Blog ก่อนเลยละกัน เวบ Blog จะมีลักษณะเหมือนกันกับเวบทั่วไป ที่มีการจัดเรียงข้อความที่โพสต์ล่าสุดมาไว้ที่หน้าแรกของเวบไซต์ซึ่งจะทำให้ผู้เยี่ยมชมเข้ามาดูแล้วเห็นข้อความใหม่ ๆ ได้ทันที โดยเนื้อหาของเวบก็จะขึ้นอยู่ว่าเป็นเวบไซต์ประเภทใด เช่นถ้าเป็นเวบส่วนตัวก็จะเล่าเรื่องราวชีวิตประจำวันออกมาเขียนว่าวันนี้ทำอะไรบ้าง ไปไหนมาบ้าง

เวบ Blog service ที่เราเห็นกันบ่อย ๆ ก็จะมี Blogger, Wordpress, Tumblr แต่ถ้าเป็นเวบของบ้านเราเองก็จะมี Exteen, 212Cafe, Bloggang

Social Network (SN)
ชื่อนี้เป็นที่รู้กันไม่นานมากนัก แต่ก็เป็นที่นิยมกันมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างเห็นได้ชัด เพราะเป็นการเปิดการเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างคนที่เล่นเวบด้วยกันหรือเป็นเพื่อนกัน ระบบจะให้ผู้ใช้สามารถตอบรับข้อความ โพสต์รูปภาพหรือแม้แต่จะใช้งานในลักษณะเป็น Blog เพื่อนำเสนอกับกลุ่มเพื่อน ๆ ได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเวบที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็มีดังนี้ Facebook, Twitter, MySpace, LinkedIn, Multiply ,Friendster, Hi5, ICQ

Twitter จัดอยู่ในกลุ่ม Social Network ที่สามารถโพสต์ข้อความสั้น ๆ ไม่เกิน 140 ตัวอักษร อาจจะดูว่าน้อยไปสำหรับการโพสต์ข้อความผ่านเวบ เพราะเราสามารถพิมพ์ได้มากกว่านี้และต้องการเขียนมากกว่าแน่นอน แต่ถ้าเราส่งข้อความโดยใช้ sms จากมือถือก็จะเป็นการพอดีให้มีจำนวนตัวอักษรเหลือไว้สำหรับชื่อหรืออย่างอื่นๆ เพิ่มเติมจากข้อความ sms นิดหน่อย และผมก็เห็นด้วยที่ให้ใช้ข้อความสั้น ๆ แทนการเขียนโน๊ตแต่ให้ยืดยาวออกไปอีก ซึ่งถ้าต้องการเขียนแบบยาวๆ ก็เปลี่ยนไปเป็น blog service แทน

Twitter มีการจัดการเรื่องความปลอดภัยด้วยการจำกัดไม่ให้โพสต์เวบลิ้งค์ที่มีความยาวเกิน 30 ตัวอักษร ถ้าเกินไปก็จะโดนตัดส่วนที่เกินออกทันที ปัญหาที่ตามมาก็คือเราไม่สามารถลิ้งค์ไปที่เวบนั้น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม เราสามารถแก้ตรงที่จะใส่ url แบบยาว ๆ ก็จะเปลี่ยนเป็น short url service แทน เช่น bit.ly หรือ cli.gs นอกจากนั้น Twitter ยังมี API (Application Programming Interface) ที่เอาไว้เปิดตัวเชื่อมต่อกับการเขียนโปรแกรมของเวบหรือโปรแกรมชนิดอื่น ๆ เพื่อสามารถส่งข้อความขึ้น twitter ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องล็อกเข้ามาโพสต์ข้อความผ่านเวบของ Twitter ทุกครั้ง

Facebook ก็อยู่ในกลุ่ม Social Network ที่ให้บริการหลายอย่างด้วยกัน เช่น chat, photo sharing, club, and (social) pages ที่เปิดให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วมในการทำธุรกิจประเภทต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม Facebook ได้มีโปรแกรมสำหรับผู้ใช้ให้สามารถใช้ Facebook ในมือถือได้ด้วย ซึ่งทำให้สะดวกในการใช้งานยิ่งขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะตอนที่ 3G กำลังบูมแบบนี้ เพราะจะทำให้การเชื่อมต่อได้เร็วขึ้นและ on the move สำหรับชีวิตประจำวันที่รีบเร่งแบบนี้ :)

สุดท้าย ผมขอฝากไว้หนึ่งว่า ทุกอย่างมีข้อดีแต่ก็มักจะมีข้อเสียภายในตัวมันเองด้วยเสมอ ฉะนั้น เวลาที่เราเปิดใช้บริการแล้วจะแชร์ข้อมูลอะไรที่เป็นเรื่องส่วนตัวของเราเองก็ต้องนึกถึงความปลอดภัยของตัวเราเองด้วยเหมือนกัน .. นะครับ