วิธีสั่งปิดโปรแกรมที่ค้างในแมค

แม้ว่า หลายคนอาจจะบอกว่าแมค โอเอส ดีที่สุดแล้ว แต่ผมก็เชื่อว่าคงมีอีกหลายคนที่เคยเจอปัญหานี้แบบมาแล้วเช่นกัน ซึ่งก็ไม่ค่อยจะบ่อยนักหรอก ผมเลยเขียนวิธีการแก้แบบง่าย ๆ ให้ทราบกันไว้ก่อน เผื่อเจออาการจริง ๆ จะได้ไม่งงจนทำอะไรไม่ถูก .. :)

เวลาที่ใช้โปรแกรมอยู่ดี ๆ แล้ว มันค้างไปเลย คือนิ่งแบบไม่สามารถเปลี่ยนไปหน้าจออื่นได้ ถ้าเป็นใน Windows ก็จะเปลี่ยนหน้าจอเป็นสีขาวหรือขึ้นว่า Not Responding ซึ่งถ้าเป็นหนัก ๆ ก็ขึ้นหน้าจอสีน้ำเงินไปเลย

อาการที่โปรแกรมค้างนี้ ส่วนใหญ่จะเกิดหลังจากเปิดโปรแกรมไว้เยอะ ๆ หรือโปรแกรมนั้นกำลังโปรเซสงานอะไรสักอย่างเช่น iPhoto กำลัง render ภาพหรือคลิปอยู่ ทำให้ตัวโปรแกรมใช้แรมหรือหน่วยความจำเยอะกว่าปกติ ทำให้แรมไม่พอในใช้งานต่อ

วิธีแก้ก็ทำได้ง่าย ๆ ดังนี้;

  1. เลือกไปที่โลโก้ Apple เมนูด้านบน แล้วเลือก Force Quit Finder




  2. เลือกโปรแกรมที่ต้องการปิด




  3. กดปุ่ม Relaunch อีกครั้งเพื่อยืนยัน




  4. จากนั้น ตัวโปรแกรมจะถูกปิดลงไปทันที หรือถ้าเป็น Finder เองก็จะกลับมาหน้าจอปกติเหมือนเริ่มต้นเปิดเครื่องอีกครั้งหนึ่ง


อย่างไรก็ตาม ผมแนะนำให้รีบูตเครื่องอีกสักรอบ เพื่อให้การใช้งานราบรื่นต่อไป และจะได้ไม่เจอปัญหานั้นอีก เพราะหากเจออาการเอ๋อ ๆ แล้ว โอกาศที่จะเจออีกรอบนั้นสูงแน่ ๆ ครับ

สุดท้าย ถ้าทำแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ผมแนะนำให้กดปุ่มเปิดปิดค้างไว้นาน ๆ หน่อย นานจนกว่าเครื่องจะปิดตัวมันเอง จากนั้นค่อยเปิดเครื่องขึ้นมาใช้งานอีกครั้งครับ...

ข้อดีอีกอันหนึ่งที่ผมเห็นในแมค ก็คือเมื่อมีโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่งค้างแล้ว เรายังสามารถเรียกกลับไปยังเมนูหลัก หรือ bar ที่อยู่ด้านบนได้ เพราะตัวโปรแกรมนั้นจะมีเมนูบาร์แยกต่างหาก ทำให้ตัวโอเอสของเครื่องไม่ค้างไปด้วย เพราะฉะนั้น เราสามารถเรียกใช้เมนูด้านบนได้ตลอดเวลา

จริง ๆ แล้วถ้าเรารู้ว่าเราสั่งให้โปรแกรมทำอะไรหรือมันค้างที่ตรงไหน หากเป็นไปได้ ผมแนะนำให้รอดูอาการไปสักพักก่อน เพราะแต่ละโปรเซสที่เราสั่งให้โปรแกรมนั้น ๆ ทำงานอาจจะช้ากว่าที่เราต้องการก็เป็นได้ และเมื่อตัวโปรแกรมทำงานนั้นเสร็จ อาการค้างก็จะหายไปเองแบบไม่ต้องทำอะไรเลย

เหตุผลหลักที่ผมให้รอก่อนเพราะว่า หากไฟล์ที่กำลังโปรเซสอยู่นั้น เป็นงานชิ้นสำคัญของเรา แล้วการที่เราไปสั่งให้ terminate ตัวโปรแกรมที่กำลังโปรซสไฟล์อยู่นั้น อาจจะทำให้ไฟล์นั้นเสียหรือพังไปเลย และไม่สามารถกู้กลับมาใช้ได้อีกก็จะเสียหายมากกว่า จำไว้เสมอว่า "ไฟล์ยิ่งใหญ่ ก็ยิ่งใช้เวลาในการโปรเซสนาน" ถ้ารอได้ ลองรอดูก่อนนิดหนึ่งครับ

No comments: